สรุปบทที่4
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการทรัพยากรข้อมูล
ข้อมูล (Data) เป็นทรัพยากรสำคัญที่จำเป็นในการจัดการเหมือนกับทรัพย์สินอื่นๆของธุรกิจ
องค์กรส่วนใหญ่จะไม่สามารถอยู่รอดหรือประสบความสำเร็จได้หากปราศจากข้อมูลที่มีคุณภาพ
(Quality Data) เพื่อการดำเนินกิจการภายในและที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมภายนอก
แนวคิดข้อมูลพื้นฐาน (Foundation
Data Concepts)
แนวคิดพื้นฐานว่าข้อมูลถูกจัดระเบียนในระบบสารสนเทศได้อย่างไร
ระดับของข้อมูลมีความแตกต่างกันระหว่างกลุ่มหรือส่วนย่อยของข้อมูล
ดังนั้นข้อมูลอาจถูกจัดระเบียบเชิงตรรกะในรูปตัวอักขระ เขตข้อมูล ระเบียน แฟ้ม
และฐานข้อมูล แบบเดียวกับการเขียนที่สามารถจัดระเบียบเป็นตัวอักษร คำ ประโยค
และย่อหน้า
- ตัวอักขระ (Character) ส่วนย่อยของข้อมูลเชิงตรรกะขั้นต้น
ซึ่งประกอบด้วยตัวอักษร ตัวเลข หรือสัญลักษณ์ 1 ตัว
อาจมีข้อโต้แย้งว่า Bit
หรือ Byte น่าจะเป็นส่วนย่อยของข้อมูลขั้นต้นมากกว่า
แต่ในนิยามนี้อ้างถึงส่วนย่อยของการจัดเก็บทางด้านกายภาพ (Physical Storage)
- เขตข้อมูล (Field) ระดับถัดไปเป็นเขตข้อมูลหรือหน่วยข้อมูล
(Data Item) เขตข้อมูลประกอบด้วยกลุ่มของอักขระ
เช่น กลุ่มของตัวอักขระที่เป็นตัวอักษรของชื่อบุคคลอยู่ในรูปแบบของเขตข้อมูลชื่อ
และกลุ่มของตัวเลขยอดขายอยู่ในรูปแบบของเขตข้อมูลยอดขาย เป็นต้น
- ระเบียน (Record) เขตข้อมูลที่สัมพันธ์กันถูกจัดเป็นกลุ่มในรูปแบบระเบียน
แสดงการรวบรวมคุณสมบัติที่ใช้อธิบายเอนทิตี (Entity) เช่น
ระเบียนเงินเดือน ซึ่งประกอบด้วยเขตข้อมูลที่อธิบายถึงคุณสมบัติเช่น ชื่อคน
หมายเลขประกันสังคม และอัตราค่าจ้าง ระเบียนที่มีความยาวคงที่ (Fixed-length) จะบรรจุเขตข้อมูลจำนวนคงที่และมีความยาวเป็นตัวเลขที่คงที่
ส่วนระเบียนที่มีความยาวไม่คงที่ (Variable-length) จะบรรจุเขตข้อมูลที่มีจำนวนและความยาวที่ไม่คงที่
- แฟ้ม (File) กลุ่มของระเบียนที่สัมพันธ์กัน
เรียกว่า แฟ้ม (File)
หรือตาราง (Table) เช่น
แฟ้มพนักงานจะประกอบด้วยระเบียนพนักงาน แฟ้มอาจจำแนกได้ตามความถี่ของการใช้งาน
เช่น แฟ้มเงินเดือน (Payroll
File) หรือแฟ้มสินค้าคงคลัง (Inventory File) หรือตามประเภทของเอกสารที่เก็บ
เช่น แฟ้มเอกสาร (Document
File) หรือแฟ้มภาพกราฟิก (Graphical Image File)
หรือตามระยะเวลาที่เก็บ เช่น แฟ้มหลัก (Master File) กับแฟ้มรายการเปลี่ยนแปลง
(Transaction File) แฟ้มรายการเปลี่ยนแปลงประกอบด้วยระเบียนของรายการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นระหว่างงวดและอาจนำมาใช้เป็นระยะๆ
เพื่อการปรับปรุงระเบียนในแฟ้มหลัก แฟ้มประวัติรายการเปลี่ยนแปลงที่ล้าสมัย (History File) หรือแฟ้มหลักที่ยังคงเก็บไว้เพื่อสำรองหรือสำหรับการเก็บประวัติในระยะยาว
จะเรียกว่า หน่วยเก็บจดหมายเหตุ (Archival Storage)
- ฐานข้อมูล (Database) เป็นการรวบรวมแบบบูรณาการของระเบียนหรือออบเจ็กต์
(Objects) ในเชิงตรรกะที่สัมพันธ์กัน
อันประกอบด้วยข้อมูลที่ใช้อธิบายถึงเอนทิตี รวมถึงการปฏิบัติงานกับข้อมูลนั้น
ฐานข้อมูลเป็นที่รวบรวมระเบียนที่เก็บในรูปแฟ้ม
ให้เป็นระเบียนส่วนกลาง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการใช้งาน
ข้อมูลที่เก็บในฐานข้อมูลจะเป็นอิสระไม่ขึ้นกับโปรแกรมประยุกต์ที่ใช้งาน
และเป็นอิสระจากอุปกรณ์ที่จัดเก็บ
การใช้ซอฟแวร์จัดการฐานข้อมูล (Using Database
Management Software)
ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล
เป็นกลุ่มของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถใน การควบคุม การสร้าง
การบำรุงรักษา และการใช้ฐานข้อมูลขององค์กรและของผู้ใช้
ทั้งในระดับไมโครคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ระดับกลาง และเมนเฟรม
การใช้ระบบจัดการฐานข้อมูลมี 4 แบบหลักๆ ดังรูปที่ 7.5 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1) การพัฒนาฐานข้อมูล (Database
Development)
โปรแกรมสำเร็จรูปจัดการฐานข้อมูล
เช่น Microsoft
Access หรือ Lotus Approach อนุญาตให้ผู้ใช้พัฒนาฐานข้อมูลตามที่ต้องการได้โดยง่าย
อย่างไรก็ตามระบบผู้รับบริการและผู้ให้บริการ (Client-Server) ขององค์กรใหญ่ๆ
หรือระบบเมนเฟรมปกติแล้วจะมอบการควบคุมการพัฒนาฐานข้อมูลขององค์กรให้อยู่ในมือของผู้บริหารระบบ
(Database
Administrators : DBAs) หรือผู้เชี่ยวชาญฐานข้อมูล (Database Specialists)
การทำเช่นนี้เป็นการปรับปรุงความถูกต้องและความปลอดภัยในฐานข้อมูลขององค์กร
การพัฒนาฐานข้อมูลใช้ภาษานิยามข้อมูล (Data Definition Language : DDL) สำหรับระบบจัดการฐานข้อมูล
เช่น Oracle8
หรือ DB2 ของ
IBM เพื่อพัฒนาและกำหนดเนื้อหาของข้อมูล
ความสัมพันธ์ โครงสร้างของแต่ละฐานข้อมูล
และปรับเปลี่ยนคุณลักษณะเฉพาะของฐานข้อมูลเมื่อจำเป็น
สารสนเทศเหล่านั้นถูกจัดทำสารบัญแฟ้ม (Catalog) และเก็บลงในฐานข้อมูลของนิยามข้อมูลและคุณลักษณะเฉพาะที่เรียกว่า
พจนานุกรมข้อมูล (Data
Dictionary)
พจนานุกรมข้อมูล เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งของการบริหารฐานข้อมูล
พจนานุกรมข้อมูลเป็นสารบัญแฟ้มเชิงคอมพิวเตอร์หรือที่บรรจุ เมตาเดตา (Metadata) ซึ่งถือเป็นข้อมูลของข้อมูล
(Data about Data) รวมทั้งส่วนประกอบซอฟต์แวร์เพื่อจัดการฐานข้อมูลของนิยามข้อมูล
2) การสืบค้นฐานข้อมูล (Data Interrogation)
ความสามารถในการสืบค้นฐานข้อมูลเป็นผลประโยชน์หลักของระบบจัดการฐานข้อมูล
ผู้ใช้สามารถใช้ระบบจัดการฐานข้อมูลสำหรับการขอสารสนเทศจากฐานข้อมูล โดยการใช้ภาษาสอบถาม
(Query Language) หรือตัวสร้างรายงาน
(Report Generator) ซึ่งทำให้สามารถรับคำตอบทันทีในรูปแบบของการแสดงทางจอภาพหรือรายงาน
SQL และ QBE SQL หรือภาษาสอบถามเชิงโครงสร้าง
(Structured
Query Language) เป็นภาษาสอบถามที่พบในหลายโปรแกรมสำเร็จรูปจัดการฐานข้อมูล
รูปแบบพื้นฐานของการสอบถามของ SQL คือ SELECT………..FROM………..WHERE………..
รูปที่ 7.5 การใช้โปรแกรมสำเร็จรูปจัดการฐานข้อมูล 4 ประเภทหลัก คือ
การพัฒนาฐานข้อมูล การสืบค้นฐานข้อมูล การบำรุงรักษาฐานข้อมูล และการพัฒนาระบบงาน
3) การบำรุงรักษาฐานข้อมูล (Database
Maintenance)
ฐานข้อมูลขององค์กรต้องการการปรับปรุงให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งมีผลมาจากรายการเปลี่ยนแปลงใหม่หรือเหตุการณ์อื่นๆและการเปลี่ยนแปลงเบ็ดเตล็ดอื่นๆ
ทั้งนี้ต้องทำให้แน่ใจในความถูกต้องของข้อมูลในฐานข้อมูล
กระบวนการบำรุงรักษาฐานข้อมูลนี้ทำได้โดยโปรแกรมประมวลผลรายการเปลี่ยนแปลงและโปรแกรมสำเร็จรูปของผู้ใช้อื่นๆ
ที่สนับสนุนระบบจัดการฐานข้อมูล
4) การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ (Application
Development)
โปรแกรมสำเร็จรูประบบจัดการฐานข้อมูลมีบทบาทหลักในการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์สามารถใช้ภาษาโปรแกรมยุคที่สี่ (4GL Programming
Language) และสร้างเครื่องมือพัฒนาซอฟต์แวร์จากโปรแกรมสำเร็จรูประบบจัดการฐานข้อมูล
เช่น การใช้ระบบจัดการฐานข้อมูลเพื่อสร้างหน้าจอภาพสำหรับป้อนข้อมูล แบบฟอร์ม
รายงาน หรือหน้าเว็บ (Web
Page) ของโปรแกรมธุรกิจได้โดยง่าย
ระบบจัดการฐานข้อมูลทำให้งานของโปรแกรมเมอร์ง่ายขึ้น
เพราะไม่จำเป็นต้องพัฒนากระบวนคำสั่งเพื่อจัดการรายละเอียดข้อมูลด้วยภาษาโปรแกรมตามแบบเดิมทุกครั้งที่เขียนโปรแกรม
โดยสามารถใช้ภาษาจัดดำเนินการข้อมูล (Data Manipulation Language : DML) เพื่อให้ระบบจัดการฐานข้อมูลทำงานที่จำเป็นในส่วนนี้แทน
ประเภทของฐานข้อมูล (Types
of Databases)
การพัฒนาในเรื่องของเทคโนโลยีสารสนเทศและโปรแกรมประยุกต์ทางธุรกิจมีผลให้เกิดฐานข้อมูลหลายประเภท
รูปที่ 7.
11 แสดง 6 ประเภทหลักเชิงความคิดของฐานข้อมูลที่พบในองค์กรธุรกิจ
ฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการ (Operational
Database) เก็บรายละเอียดของข้อมูลที่ต้องการเพื่อสนับสนุนการดำเนินกิจการของทั้งองค์กร
อาจเรียกว่า ฐานข้อมูลซับเจ็กแอเรีย (Subject Area Database : SADB) ฐานข้อมูลรายการเปลี่ยนแปลง
(Transaction
Databases) หรือฐานข้อมูลผลผลิต (Production database) เช่น
ฐานข้อมูลลูกค้า ฐานข้อมูลบุคคล ฐานข้อมูลสินค้าคงคลัง
และฐานข้อมูลอื่นๆที่บรรจุข้อมูลที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจ
ฐานข้อมูลเชิงวิเคราะห์ (Analytical
Database) เก็บข้อมูลและสารสนเทศที่ดึงมาจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการและฐานข้อมูลภายนอก
ประกอบด้วยข้อมูลสรุปและสารสนเทศที่จำเป็นต่อผู้จัดการองค์กรและผู้ใช้ อาจเรียกว่า
ฐานข้อมูลเชิงจัดการ (Management Database) ฐานข้อมูลสารสนเทศ (Information Database) หรือฐานข้อมูลหลายมิติ (Multidimensional
Database) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลที่เข้าถึงโดยระบบประมวลผลเชิงวิเคราะห์แบบต่อตรง
(Online
Analytical Processing : OLAP)
รูปที่ 7.11 ตัวอย่างประเภทหลักๆ ของฐานข้อมูลที่ใช้โดยองค์กรและผู้ใช้
โดยใช้ฐานข้อมูลแบบกระจายบนอินทราเน็ต ผ่านเครือข่ายเพื่อเข้าถึงฐานข้อมูลผู้ใช้
คลังข้อมูล ฐานข้อมูลภายนอกบนอินทราเน็ตและบริการต่อตรงหรือออนไลน์
ฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการขององค์กร
และฐานข้อมูลเชิงวิเคราะห์ของข้อมูลองค์กรที่วิกฤต
คลังข้อมูล (Data
Warehouses) เก็บข้อมูลปัจจุบันและปีก่อนๆ
โดยดึงจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการต่างๆ ขององค์กร
เป็นแหล่งข้อมูลส่วนกลางที่ได้ถูกคัดเลือก แก้ไข จัดมาตรฐาน
และรวบรวมเพื่อใช้สำหรับการวิเคราะห์ธุรกิจ การวิจัยตลาด และสนับสนุนการตัดสินใจ
คลังข้อมูลอาจแบ่งออกเป็นตลาดข้อมูล (Data Mart) ซึ่งเก็บส่วนย่อยของข้อมูลเฉพาะอย่างจากคลัง
การใช้ฐานข้อมูลคลังข้อมูลหลักคือการทำเหมืองข้อมูล (Data
mining) ซึ่งข้อมูลในคลังข้อมูลจะถูกประมวลผลเพื่อกำหนดปัจจัยหลักและแนวโน้มจากอดีตของกิจกรรมทางธุรกิจ
ฐานข้อมูลแบบกระจาย (Distributed Databases) หลายๆ องค์กรทำซ้ำ (Replicate) และกระจายสำเนา (Copies) หรือบางส่วนของฐานข้อมูลไปยังแม่ข่ายเครือข่ายหลายๆ สถานที่ ฐานข้อมูลแบบกระจายนี้สามารถติดตั้งอยู่บนเครื่องแม่ข่ายเครือข่าย World Wide Web บนอินทราเน็ตขององค์กร หรือเอ็กซ์ทราเน็ต ฐานข้อมูลแบบกระจายอาจจะสำเนาจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการหรือฐานข้อมูลเชิงวิเคราะห์ ฐานข้อมูลสื่อหลายมิติ หรือฐานข้อมูลประเภทอื่นๆ เพื่อปรับปรุงการทำงานของฐานข้อมูลและเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ต้องแน่ใจว่าข้อมูลทั้งหมดในฐานข้อมูลแบบกระจายขององค์กรได้รับการปรับปรุงตรงกัน (Consistently) และให้ทันสมัยพร้อมกัน (Concurrently Updated)
ฐานข้อมูลผู้ใช้ (End User Databases) ประกอบด้วยแฟ้มข้อมูลต่างๆ ที่พัฒนาโดยผู้ใช้ที่สถานีปลายทาง เช่น ผู้ใช้อาจจะมีเอกสารอิเล็กทรอนิกส์หลายๆ สำเนาที่ได้ดาวน์โหลดจาก World Wide Web จากโปรแกรมสำเร็จรูปประมวลผลคำ หรือรับจากไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออาจจะเป็นแฟ้มข้อมูลที่เกิดจากการใช้แผ่นตารางทำการ (Spreadsheet) และโปรแกรมประยุกต์ระบบจัดการฐานข้อมูล
ฐานข้อมูลแบบกระจาย (Distributed Databases) หลายๆ องค์กรทำซ้ำ (Replicate) และกระจายสำเนา (Copies) หรือบางส่วนของฐานข้อมูลไปยังแม่ข่ายเครือข่ายหลายๆ สถานที่ ฐานข้อมูลแบบกระจายนี้สามารถติดตั้งอยู่บนเครื่องแม่ข่ายเครือข่าย World Wide Web บนอินทราเน็ตขององค์กร หรือเอ็กซ์ทราเน็ต ฐานข้อมูลแบบกระจายอาจจะสำเนาจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการหรือฐานข้อมูลเชิงวิเคราะห์ ฐานข้อมูลสื่อหลายมิติ หรือฐานข้อมูลประเภทอื่นๆ เพื่อปรับปรุงการทำงานของฐานข้อมูลและเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ต้องแน่ใจว่าข้อมูลทั้งหมดในฐานข้อมูลแบบกระจายขององค์กรได้รับการปรับปรุงตรงกัน (Consistently) และให้ทันสมัยพร้อมกัน (Concurrently Updated)
ฐานข้อมูลผู้ใช้ (End User Databases) ประกอบด้วยแฟ้มข้อมูลต่างๆ ที่พัฒนาโดยผู้ใช้ที่สถานีปลายทาง เช่น ผู้ใช้อาจจะมีเอกสารอิเล็กทรอนิกส์หลายๆ สำเนาที่ได้ดาวน์โหลดจาก World Wide Web จากโปรแกรมสำเร็จรูปประมวลผลคำ หรือรับจากไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออาจจะเป็นแฟ้มข้อมูลที่เกิดจากการใช้แผ่นตารางทำการ (Spreadsheet) และโปรแกรมประยุกต์ระบบจัดการฐานข้อมูล
ฐานข้อมูลภายนอก (External
Databases) การเข้าถึงสารสนเทศที่มีค่าของฐานข้อมูลภายนอกจากพาณิชย์บริการต่อตรง
(Commerial
Online Services) โดยจ่ายค่าธรรมเนียม
หรือจากแหล่งต่างๆบนอินทราเน็ต บน World Wide Web ทั้งที่มีค่าใช้จ่ายหรือไม่มีค่าใช้จ่าย
จากเว็บไซท์จัดเตรียมหน้าเชื่อมโยงหลายมิติ (Hyperlink) ของเอกสารสื่อประสมที่ไม่รู้จบ
(Endless)
เพื่อการเข้าถึงฐานข้อมูลสื่อหลายมิติ (Premedia
Database) ข้อมูลในรูปสถิติของกิจกรรมเศรษฐศาสตร์และประชากรจากธนาคารข้อมูลสถิติ
(Stratistical
Data Banks) การเรียกดู (View) หรือดาวน์โหลด (Download) บทคัดย่อหรือสำเนาที่สมบูรณ์จำนวนนับร้อยจากหนังสือพิมพ์
นิตยสาร จดหมายข่าว งานวิจัย ข้อความ และวารสารอื่นๆ จากฐานข้อมูลบรรณานุกรม (Bibliographic)
และต้นฉบับเต็ม (Full Text)
ประโยชน์และข้อจำกัดของการจัดการฐานข้อมูล (Benefits and Limitations of Database Management)
แนวคิดเชิงการจัดการฐานข้อมูลเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับผลประโยชน์ที่สำคัญๆ มีหลายประการ เช่น การลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล การรวบรวมข้อมูลให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อการเข้าถึงจากหลายโปรแกรมและหลายผู้ใช้ โปรแกรมเป็นอิสระจากรูปแบบของข้อมูลและประเภทของฮาร์ดแวร์สำหรับจัดเก็บ ผู้ใช้ได้รับรายงานและการสอบถาม / การโต้ตอบ (Inquiry/Response) เพื่อได้สารสนเทศที่ต้องการโดยง่าย โปรแกรมคอมพิวเตอร์ถูกทำให้ง่ายขึ้นเพราะไม่ขึ้นอยู่กับรูปแบบเชิงตรรกะของข้อมูลหรือสถานที่จัดเก็บทางกายภาพของข้อมูล สุดท้ายการบูรณการและความปลอดภัยของข้อมูลที่เก็บอยู่ในฐานข้อมูลเพิ่มขึ้นเพราะการเข้าถึงและการแก้ไขฐานข้อมูลถูกควบคุมโดยซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล
ข้อจำกัดของการจัดการฐานข้อมูลเพิ่มขึ้นเนื่องจากความซับซ้อนของเทคโนโลยีที่มีมากขึ้น ดังนั้นแนวคิดเชิงการจัดการฐานข้อมูลทำให้เกิดปัญหาจัดการทรัพยากรข้อมูล การพัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีประเภทข้อมูลที่ซับซ้อนและการติดตั้ง DBMS ที่ยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายที่สูง มีความต้องการฮาร์ดแวร์มากขึ้นเนื่องจากความต้องการจัดเก็บข้อมูลขององค์กร และโปรแกรม DBMS ที่ใหญ่ขึ้น เวลาที่ใช้ในการประมวลผลที่ยาวขึ้น อาจเป็นผลมาจากโปรแกรมประยุกต์ประมวลผลรายการเปลี่ยนแปลงที่มีขนาดใหญ่เพราะช่วงชั้นของซอฟต์แวร์ระหว่างโปรแกรมประยุกต์และระบบปฏิบัติการที่มากขึ้น สุดท้ายถ้าองค์กรวางใจในฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์ (Centralize Database) อาจจะเป็นเหตุให้เกิดข้อผิดพลาด ฉ้อฉล และล้มเหลวเพิ่มมากขึ้น ในทำนองเดียวกันปัญหาในเรื่องความไม่แน่นอนของข้อมูลอาจจะเพิ่มขึ้นได้ถ้าใช้แนวทางฐานข้อมูลแบบกระจาย (Distributed Database) ดังนั้นความปลอดภัยและบูรณาการของฐานข้อมูลขององค์กรจึงเป็นภาระหลักในการจัดการทรัพยากรข้อมูลองค์กร
http://www2.cvc.ac.th/trsai/it/learning1/chapter7.htm
เเบบฝึกหัดบทที่ 4
1. ทำอย่างไร ที่องค์กรธุรกิจสามารถที่จะใช้เครือข่ายระหว่างองค์กรในการจัดเก็บเข้าถึงและแจกจ่ายข้อมูลสารสนเทศ ไปยังหน่วยงานภายในและหน่วยงานภายนอก
ตอบ ประสิทธิภาพในการเข้าถึงข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ
ในการบำรุงรักษาฐานข้อมูล ระเบียนหรือออบเจ็กต์ที่มีการเพิ่ม ลบ
และปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจากรายการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ
ข้อมูลต้องเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้สารสนเทศถูกผลิตเพื่อตอบโต้กับคำร้องขอของผู้ใช้
2. อะไรคือบทบาทของการจัดการฐานข้อมูล การบริหารฐานข้อมูลและการวางแผนที่จะใช้ข้อมูลมาเป็นส่วนสำคัญในการทำธุรกิจ
ตอบ - การจัดการฐานข้อมูลเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่จำเป็นในการจัดการเหมือนกับทรัพย์สินอื่นๆ
ของธุรกิจ องค์กรต้องมีข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ
- การบริหารฐานข้อมูล
เป็นหน้าที่สำคัญของการจัดการทรัพยากรข้อมูลอย่างหนึ่ง
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการติดตั้งและบังคับใช้นโยบายและกระบวนคำสั่งสำหรับการจัดการข้อมูล
- การวางแผนข้อมูล
เป็นการวางแผนขององค์กรและการวิเคราะห์หน้าที่ที่เน้นในเรื่องการจัดการทรัพยากรข้อมูล
3. อะไรคือประโยชน์ของแนวคิดในการรวบรวมฐานข้อมูล การเข้าถึงและการจัดการทรัพยากรฐานข้อมูล จงยกตัวอย่างประกอบ
ตอบ คือ
เป็นส่วนติดต่อระหว่างผู้ใช้กับฐานข้อมูลให้ผู้ใช้เข้าถึงได้ง่ายมีประสิทธิภาพในการเข้าถึงข้อมูล
ในการบำรุงรักษาฐานข้อมูลและการจัดการทรัพยากรข้อมูลที่เป็นระบบ
4. อะไรคือบทบาทของระบบสารสนเทศในการจัดการระบบฐานข้อมูล
ตอบ รวบรวมระเบียนระเบียนและออบเจ็กต์
ให้เป็นฐานข้อมูลที่สามารถเข้าถึงได้โดยโปรแกรมประยุกต์ เรียก ระบบจัดการฐานข้อมูล
ทำหน้าที่เป็นส่วนติดต่อระหว่างผู้ใช้กับฐานข้อมูล ที่ช่วยผู้ใช้ให้เข้าถึงระเบียนในฐานข้อมูลได้อย่างง่ายดาย
5. ฐานข้อมูลสารสนเทศนั้น เป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการปฏิบัติการภายในองค์กรให้พิจารณาว่า
ยังมีฐานข้อมูลประเภทใดอีกที่มีความสำคัญในธุรกิจปัจจุบัน
ตอบ โปรแกรมฐานข้อมูลที่นิยมใช้
- โปรแกรมฐานข้อมูล
เป็นโปรแกรมหรือซอฟแวร์ที่ช่วยจัดการข้อมูลหรือรายการต่าง ๆ ที่อยู่ในฐานข้อมูล
ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บ การเรียกใช้ การปรับปรุงข้อมูล
-โปรแกรมฐานข้อมูล
จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งโปรแกรมฐานข้อมมูลที่นิยมใช้มีอยู่ด้วยกันหลายตัว เช่น Access, FoxPro,
Clipper, dBase, FoxBase, Oracle, SQL เป็นต้น โดยแต่ละโปรแกรมจะมีความสามารถต่างกัน
บางโปรแกรมใช้ง่ายแต่จะจำกัดขอบเขตการใช้งาน บ่งโปรแกรมใช้งานยากกว่า
แต่จะมีความสามารถในการทำงานมากกว่า
-โปรแกรม Access นับเป็นโปรแกรมที่นิยมใช้กันมากในขณะนี้
โดยเฉพาะในระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่
สามารถสร้างแบบฟอร์มที่ต้องการจะเรียกดูข้อมูลในฐานข้อมูล
หลังจากบันทึกข้อมูลในฐานข้อมูลเรียบร้อยแล้ว จะสามารถค้นหาหรือเรียกดูข้อมูลจากเขตข้อมูลใดก็ได้
นอกจากนี้ Access ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
โดยการกำหนดรหัสผ่านเพื่อป้องกันความปลอดภัยของข้อมูลในระบบได้ด้วย
-โปรแกรม FoxPro เป็นโปรแกรมฐานข้อมูลที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด
เนื่องจากใช้ง่ายทั้งวิธีการเรียกจากเมนูของ FoxPro และประยุกต์โปรแกรมขึ้นใช้งาน
โปรแกรมที่เขียนด้วยFoxPro จะสามารถใช้กลับ dBase คำสั่งและฟังก์ชั่นต่าง ๆ ใน dBase จะสามารถใช้งานบนFoxPro ได้ นอกจากนี้ใน FoxPro ยังมีเครื่องมือช่วยในการเขียนโปรแกรม เช่น
การสร้างรายงาน
-โปรแกรม dBase เป็นโปรแกรมฐานข้อมูลชนิดหนึ่ง
การใช้งานจะคล้ายกับโปรแกรมFoxPro ข้อมูลรายงานที่อยู่ในไฟล์บน dBase จะสามารถส่งไปประมวลผลในโปรแกรม Word Processor ได้ และแม้แต่ Excel ก็สามารถอ่านไฟล์ .DBF ที่สร้างขึ้นโดยโปรแกรม dBase ได้ด้วย
-โปรแกรม SQL เป็นโปรแกรมฐานข้อมูลที่มีโครงสร้างของภาษาที่เข้าใจง่าย
ไม่ซับซ้อน มีประสิทธิภาพการทำงานสูง
สามารถทำงานที่ซับซ้อนได้โดยใช้คำสั่งเพียงไม่กี่คำสั่ง โปรแกรม SQL จึงเหมาะที่จะใช้กับระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
และเป็นภาษาหนึ่งที่มีผู้นิยมใช้กันมาก โดยทั่วไปโปรแกรมฐานข้อมูลของบริษัทต่าง ๆ
ที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน เช่น Oracle, DB2 ก็มักจะมีคำสั่ง SQL ที่ต่างจากมาตรฐานไปบ้างเพื่อให้เป็นจุดเด่นของแต่ละโปรแกรมไป
6. อะไรคือข้อดีหรือประโยชน์ และอะไรคือข้อจำกัดของตัวแบบความสัมพันธ์ของฐานข้อมูลที่ประยุกต์ใช้ในทางธุรกิจปัจจุบัน
ตอบ ประโยชน์และข้อจำกัดของการจัดการฐานข้อมูล
เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์ที่สำคัญๆ เช่น
การลดการซ้ำซ้อนของข้อมูล การรวบรวมข้อมูลให้เป็นหนึ่งเดียว
เพื่อการเข้าถึงจากหลายโปรแกรมและหลายผู้ใช้
โปรแกรมอิสระจากรูปแบบข้อมูลและประเภทของฮาร์ดแวร์สำหรับจัดเก็บ
ผู้ใช้ได้รับรายงานและการสอบถาม การโต้ตอบ เพื่อได้สารสนเทศที่ต้องการโดยง่าย
ข้อจำกัดของการจัดการฐานข้อมูลเพิ่มขึ้นเนื่องจากความซับซ้อนของเทคโนโลยีที่มากขึ้น
ดังนั้น ทำให้เกินปัญหาจัดการทรัพยากรข้อมูล
การพัฒนาข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีประเภทข้อมูลที่ซับซ้อนและการติดตั้ง DBMS ที่ยุ่งยากและค่าใช้จ่ายสูง
7. จงอธิบายถึงฐานข้อมูล
คลังข้อมูลและตลาดข้อมูลในความเข้าใจของนักศึกษา
ตอบ - ฐานข้อมูล
เป็นการรวบรวมระเบียนที่เก็บในรูปแบบแฟ้ม เป็นอิสระจากอุปกรณ์ที่จัดเก็บ
- คลังข้อมูล เก็บข้อมูลปัจจุบันและปีก่อนๆ
โดยดึงข้อมูลเชิงปฏิบัติการต่างๆ ขององค์กร
เป็นแหล่งข้อมูลส่วนกลางที่ได้ถูกคัดเลือก แก้ไข
จัดมาตรฐานและรวบรวมเพื่อใช้สำหรับการวิเคราะห์ธุรกิจ การวิจัยตลาด
และสนับสนุนการตัดสินใจ
- ตลาดข้อมูล เป็นที่ที่มีแหล่งข้อมูลที่มีมาก
เพื่อให้ผู้บริหารได้ทำการเลือกใช้ตามความต้องการ
8. ทำไมตัวแบบฐานข้อมูลเชิงวัตถุ จึงได้รับกายอมรับในการนำเอามาพัฒนาและจัดการฐานข้อมูลทางธุรกิจบนเว็บ
ตอบ โครงสร้างเชิงวัตถุ แบบจำลองฐานข้อมูลเชิงวัตถุ
เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญของยุคใหม่ของโปรแกรมประยุกต์สื่อประสมเชิงเว็บ
9. ทำอย่างไรที่จะนำเอาอินเทอร์เน็ต
และ World Wide
Wed มาใช้ในการจัดการทรัพยากรข้อมูลเพื่อประกอบการทำธุรกิจได้
ตอบ เป็นซอฟแวร์ที่สำคัญในการจัดการหน้าสื่อประสมเชื่อมโยงหลายมิติและข้อมูลประเภทอื่น
ที่สนับสนุนเว็บไซท์ขององค์กรเป็นเพราะ OODBMS สามารถจัดการเรื่องการเข้าถึงและจัดเก็บออบเจ็กต์
เช่น เอกสาร ภาพกราฟิก วีดีทัศน์ อื่นๆ ได้โดยง่าย
http://www.chandra.ac.th/office/ict/document/it/it04/page01.html
กรณีศึกษาบทที่3
1. การใช้แนวคิดเชิงระบบได้ช่วยให้บริษัทแก้ปัญหาทางธุรกิจได้อย่างไร
ตอบ ปัญหาและแนวทางแก้ไขได้ถูกกำหนดให้เป็นขั้นตอนแรกของแนวคิดเชิงระบบปัญหา สามารถให้คำจำจัดความได้ว่าเป็นภาวะพื้นฐานที่ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่ต้องการ แนวทางแก้ไขคือ ภาวะพื้นฐานที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ สัญณานบอกเหตุ หมายถึง ปัญหาสำคัญที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงแต่มีแนวโน้มว่าจะเกิด
ตอบ ปัญหาและแนวทางแก้ไขได้ถูกกำหนดให้เป็นขั้นตอนแรกของแนวคิดเชิงระบบปัญหา สามารถให้คำจำจัดความได้ว่าเป็นภาวะพื้นฐานที่ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่ต้องการ แนวทางแก้ไขคือ ภาวะพื้นฐานที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ สัญณานบอกเหตุ หมายถึง ปัญหาสำคัญที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงแต่มีแนวโน้มว่าจะเกิด
2. คุณเห็นด้วยหรือไม่กับแนวทางที่บริษัทใช้ในการแก้ปัญหาทำไมจึงเห็นด้วยและทำไมจึงไม่เห็นด้วย
ตอบ เห็นด้วยหลังจากนั้น 2 เดือนลูกค้าที่มาใช้บริการบ่อยกว่า 90% กลับมาซื้อสินค้าอีก
อะไรอีกที่คุณอยากแนะนำให้คามิลอททำเพื่อปรับปรุงสถานการณ์ทางธุรกิจของบริษัทและจะใช้เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยได้อย่างไร
ตอบ บริษัทอาจจะต้องมีการสำรองแผนหลายแผน เพราะเรามิอาจทราบได้ว่าปัญหาจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้างซึ่งก็จะเเสดงถึงการพัฒนาปัญหาทางธุรกิจ
ตอนที่2
1. อะไรคือขั้นตอนที่แนวคิดเชิงระบบในการพัฒนากระบวนการจัดทำเว็บไซท์ของบริษัท Millipore
ตอบ ความต้องการของลูกค้าเพื่อให้ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ด้วยวิธีการนี้ Millipore ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำผลิตภัณฑ์กำจัดของเสีย (Purification : ผลิตภัณฑ์ที่กำจัดสิ่งสกปรกและทำให้เกิดความบริสุทธิ์ เช่น อากาศ น้ำเสีย ) ระดับชาติ ที่มีมูลค่า 619 ล้านเหรียญสหรัฐ ได้ก้าวล้ำนำคู่แข่งขันในธุรกิจประเภทเดียวกัน
2. ทำไมการสำรวจลูกค้าบนเว็บแบบออนไลน์ จึงไม่สามารถวัดของต้องการของลูกค้าที่เท่าที่ควร
ตอบ สามารถทำการวิเคราะร์ข้อมูลของลูกค้าทีเข้ามาใช้ โดยเหมือนกับการมองข้ามไหล่ของผู้ใช้แต่มองดูที่จอภาพ คุณไม่สามารถเห็นได้ว่าเขายิ้มหรือรู้สึกอย่างไรเพียงแต่คุณรู้แค่ว่าเขากำลังทำอะไร
3. คุณเห็นด้วยกับการแก้ไขปัญหาของ Millipore เพื่อพัฒนาเว็บไซท์สำหรับลูกค้า ทำไมเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย
ตอบ ไม่เห็นด้วย เพราะ ผู้ใช้กำลังใส่หมายเลขรหัสสินค้าในช่องการสืบค้นโดยไม่ได้แทรกช่องว่างตามที่กำหนดไว้ ดังนั้น การสร้างหน้าเว็บที่มีหมายเลขรหัสสินค้าโดยไม่ต้องให้มีช่องว่าง ( ระหว่างตัวเลขแต่ละชุด ) ก็เป็นการแก้ไขปัญหาให้กับผู้ใช้ได้
ตอบ เห็นด้วยหลังจากนั้น 2 เดือนลูกค้าที่มาใช้บริการบ่อยกว่า 90% กลับมาซื้อสินค้าอีก
อะไรอีกที่คุณอยากแนะนำให้คามิลอททำเพื่อปรับปรุงสถานการณ์ทางธุรกิจของบริษัทและจะใช้เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยได้อย่างไร
ตอบ บริษัทอาจจะต้องมีการสำรองแผนหลายแผน เพราะเรามิอาจทราบได้ว่าปัญหาจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้างซึ่งก็จะเเสดงถึงการพัฒนาปัญหาทางธุรกิจ
ตอนที่2
ตอบ ความต้องการของลูกค้าเพื่อให้ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ด้วยวิธีการนี้ Millipore ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำผลิตภัณฑ์กำจัดของเสีย (Purification : ผลิตภัณฑ์ที่กำจัดสิ่งสกปรกและทำให้เกิดความบริสุทธิ์ เช่น อากาศ น้ำเสีย ) ระดับชาติ ที่มีมูลค่า 619 ล้านเหรียญสหรัฐ ได้ก้าวล้ำนำคู่แข่งขันในธุรกิจประเภทเดียวกัน
2. ทำไมการสำรวจลูกค้าบนเว็บแบบออนไลน์ จึงไม่สามารถวัดของต้องการของลูกค้าที่เท่าที่ควร
ตอบ สามารถทำการวิเคราะร์ข้อมูลของลูกค้าทีเข้ามาใช้ โดยเหมือนกับการมองข้ามไหล่ของผู้ใช้แต่มองดูที่จอภาพ คุณไม่สามารถเห็นได้ว่าเขายิ้มหรือรู้สึกอย่างไรเพียงแต่คุณรู้แค่ว่าเขากำลังทำอะไร
3. คุณเห็นด้วยกับการแก้ไขปัญหาของ Millipore เพื่อพัฒนาเว็บไซท์สำหรับลูกค้า ทำไมเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย
ตอบ ไม่เห็นด้วย เพราะ ผู้ใช้กำลังใส่หมายเลขรหัสสินค้าในช่องการสืบค้นโดยไม่ได้แทรกช่องว่างตามที่กำหนดไว้ ดังนั้น การสร้างหน้าเว็บที่มีหมายเลขรหัสสินค้าโดยไม่ต้องให้มีช่องว่าง ( ระหว่างตัวเลขแต่ละชุด ) ก็เป็นการแก้ไขปัญหาให้กับผู้ใช้ได้